นายจ้างเริ่มหักหนี้ลูกจ้างนำส่ง กยศ.

กยศ. เตรียมเดินสายพบองค์กรนายจ้างหลังพระราชบัญญัติใหม่มีผลบังคับใช้ โดยกำหนดให้นายจ้างต้องหักเงินลูกจ้างที่ติดหนี้ กยศ. เพื่อนำส่งผ่านกรมสรรพากรในแต่ละเดือน คาดพร้อมเริ่มดำเนินการตามกฎหมายใหม่ในไตรมาส 1 ของปี 61 ย้ำ การเปลี่ยนวิธีชำระหนี้ตามกฎหมายใหม่จะทำให้ กยศ.มีทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะปล่อยกู้ได้ปีละ 3.5 หมื่นล้านบาทโดยไม่ต้องของบประมาณจากรัฐบาลเช่นที่ผ่านมา



นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก่อน กองทุนจึงมีภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อรองรับการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติใหม่ดังกล่าว ได้แก่ การออกกฎกระทรวงและระเบียบต่างๆ การประสานความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการเชื่อมต่อระบบรับชำระหนี้จากนายจ้างที่ได้หักเงินลูกจ้างเพื่อนำส่งผ่านกรมสรรพากร การส่งรายชื่อลูกหนี้ของ กยศ. ให้แก่สำนักงานประกันสังคม

รวมถึง ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้ความเข้าให้แก่องค์กรนายจ้าง เช่น องค์กรนายจ้างแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อได้รับทราบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ในการการหักเงินเดือนพนักงานที่เป็นผู้กู้ยืมเงิน กยศ. โดยในเดือน ต.ค. นี้ กยศมีแผนจะเริ่มนำร่องจัดประชุมสัญจรกับสมาชิกสภาองค์กรนายจ้างแห่งประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นที่จังหวัดระยองเป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม กยศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีความพร้อมในการหักเงินลูกจ้างเพื่อนำส่งคืนหนี้ กยศ. เป็นรายเดือนได้ในไตรมาส 1 ของปี 2561 โดย กยศ. ยังเชื่อมั่นว่าการนำส่งหนี้ตามกฎหมายใหม่จะทำให้ กยศ. มีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอสำหรับการปล่อยกู้เองได้ในแต่ละปีที่ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินงบประมาณจากรัฐบาลดังเช่นผ่านมาอีก

สำหรับสถานะภาพของ กยศ. ในปัจจุบันมีผู้กู้ยืม 5,284,309 ราย ซึ่งประกอบด้วย ผู้กู้ที่ชำระเสร็จสิ้นแล้ว 670,772 ราย ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,411,822 ราย ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและปลอดหนี้ 1,151,520 ล้านราย และอื่นๆ (เสียชีวิต/ทุพพลภาพ) 50,135 ราย คิดเป็นเงินให้กู้ยืมกว่า 553,492 ล้านบาท จากช่วงที่ผ่านมากองทุนได้มีมาตรการติดตามหนี้โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องจึงทำให้กองทุนมีผลการชำระหนี้ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้กองทุนไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินในการจัดสรรวงเงินการให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 โดยปี 2558 กองทุนได้รับชำระหนี้ 18,318 ล้านบาท ปี 2559 ได้รับชำระหนี้ 21,419 ล้านบาท และในปี 2560 กองทุนคาดการณ์ว่าจะได้รับชำระหนี้ประมาณ 25,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กยศ. ได้ดำเนินการส่งฟ้องลูกหนี้ไปแล้ว 1,200,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 100,000 ล้านบาท ส่วนลูกหนี้ที่หายสาบสูญมีจำนวนทั้งสิ้น 200,000 ราย โดย กยศ. จะทำการติดตามลูกหนี้ในกลุ่มนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 ยังมีผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้กองทุนและค้างชำระหนี้ ซึ่งกองทุนได้ดำเนินคดีในปีนี้ประมาณ 140,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 15,000 ล้านบาทนั้น นายชัยณรงค์ ได้กล่าวฝากถึงผู้กู้ยืมที่ได้รับหมายศาลว่าไม่ต้องกังวล และขอให้ไปตามที่ศาลนัดหมายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยและทำสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งทางกองทุนจะเปิดโอกาสให้สามารถผ่อนชำระได้อีก 9 ปีเต็ม ซึ่งลูกหนี้จะต้องจ่ายหนี้โดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1,2000 บาท หรือลูกหนี้อาจจะติดต่อขอชำระหนี้ปิดบัญชีก่อนถึงวันที่ศาลนัดก็ได้ โดยให้ส่งหลักฐานการปิดบัญชีและใบเสร็จค่าทนายความให้กับฝ่ายคดีและบังคับคดี หมายเลข

โทรสาร 02-016-4940 หากชำระครบถ้วนแล้วกองทุนจะดำเนินการถอนฟ้องให้

advertising

Share this

Previous
Next Post »