หายสงสัยแน่นอน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ตอนไหน ยังไงแล้วได้เท่าไหร่ ไปดูกัน

เบี้ยยังชีพคนชรา สวัสดิการที่รัฐมีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ มาตรวจสอบกันว่า การลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพคนชรา 2560 ใครมีสิทธิบ้าง แล้วจะไปลงทะเบียนได้ที่ไหน 


เบี้ยยังชีพคนชรา หรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นับว่าเป็นอีกสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้กับผู้สูงอายุ คือ บุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน โดยในแต่ละปีก็จะมีการเปิดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ๆ มาลงทะเบียน และในปีนี้ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า การลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปี 2560 มีรายละเอียดอะไรบ้าง แล้วสามารถไปลงทะเบียนได้เมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่ควรจะได้รับเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ไป


ใครบ้างมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ใครบ้างที่จะมีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือ ต้องมีเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
  • มีสัญชาติไทย
  • มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยการลงทะเบียนของปี 2560 ต้องเป็นผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2501 ส่วนผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ
  • ต้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ 


ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2560 ได้ที่ไหน อย่างไร ?
สำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2560 โดยผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ ลงทะเบียน ณ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ส่วนต่างจังหวัดยื่นได้ที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

โดยผู้สูงอายุสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินเบี้ยยังชีพผ่านทางช่องทางไหนได้ตามนี้
  • รับเป็นเงินสดด้วยตนเอง 
  • ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจรับแทน 
  • โอนเข้าบัญชีธนาคารในนามของผู้สูงอายุ 
  • โอนเข้าบัญชีธนาคารในนามของผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้สูงอายุ
หลักฐานในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
  1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย 
  2. ทะเบียนบ้านตัวจริงพร้อมสำเนา 
  3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารตัวจริงพร้อมสำเนา สำหรับผู้ขอรับเงินผ่านธนาคาร
กรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถมาจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับเงินแทนได้ โดยผู้แทนจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนด้วย



เบี้ยยังชีพที่ผู้สูงอายุจะได้รับ
ปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะเป็นแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ โดยผู้สูงอายุจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนต่อเนื่องไปจนกว่าจะเสียชีวิต ซึ่งแบ่งได้ตามนี้
  • ช่วงอายุ 60 - 69 ปี ได้รับเงิน 600 บาทต่อเดือน
  • ช่วงอายุ 70 - 79 ปี ได้รับเงิน 700 บาทต่อเดือน
  • ช่วงอายุ 80 - 89 ปี ได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
  • ช่วงอายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนในปี 2560 จะเริ่มได้รับเบี้ยยังชีพงวดแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลมีแนวคิดที่จะปรับขึ้นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะเบี้ยยังชีพที่จ่ายในตอนนี้มีอัตราที่ต่ำเกินไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแนวคิดว่าจะปรับเพิ่มเป็น 1,200 - 1,500 บาทต่อเดือน ซึ่งก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วจะมีการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้สำเร็จตามที่หวังไว้หรือไม่

สำหรับผู้สูงอายุท่านใดมีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความประสงค์จะรับสวัสดิการนี้ ก็อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนกัน ย้ำอีกทีว่าการลงทะเบียนในปี 2560 จะเริ่มในวันที่ 1-30 พฤศจิกายน นี้แล้ว ส่วนใครที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ เว็บไซต์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือโทร. 1300

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย
ขอขอบคุณเนื้อหา Kapook.com
advertising

Share this

Previous
Next Post »