เกษตรกรชาวสวนยางใน จ.สุราษฎร์ธานี พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ผันตัวเองมาปลูกผักบุ้งจีนในล้อยางรถยนต์ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เดือนละกว่า 25,000 บาท
วันที่ 29 ก.ค.58 นายนิพัฒน์ ม่วงพานิชย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 2 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เผยว่า เดิมตนเองมีอาชีพทำสวนยางพารา และสร้างอาชีพเสริมด้วยการทำงานจักสาน เช่น กรงนก สุ่มจับปลา แต่ต่อมามีปัญหาเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับโรคไขข้อ และหมอห้ามนั่งเป็นเวลานานๆ จนเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรฯ เข้ามาแนะนำให้ลูกค้าทำอาชีพ เสริมด้วยการปลูกผัก
เกษตรกรชาวสวนยางใน จ.สุราษฎร์ธานี ปลูกผักบุ้งจีนในล้อยางรถยนต์
นายนิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากเข้ารับการอบรม ตนและภรรยาจึงได้เริ่มปลูกผัก โดยการนำยางรถยนต์ที่เขาไม่ใช้งานแล้วมาตัดเป็นกระถาง เพื่อวางไว้บริเวณรอบๆ บ้าน เนื่องจากไม่มีที่ดินที่เหมาะสมกับการปลูกผัก โดยแรกสุดตนและภรรยาทดลองปลูกพืชหลายชนิด ทั้งคะน้า ต้นหอม ผักชี และผักบุ้ง ต่อมาได้หันมาปลูกผักบุ้งจีนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงที่บ้าน ในกิโลกรัม ละ 20 บาท และสามารถขายได้ตลอดปี ส่วนราคาจะขึ้นลงตามความต้องการของตลาด แต่มีรายได้ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 25,000 บาท และทำต่อเนื่องมาแล้วกว่า 4 ปี
สำหรับขั้นตอนการปลูกผักบุ้งจีนในกระถางยางรถยนต์นั้น มีข้อดีคือ สามารถควบคุมน้ำ อาหาร และวัชพืช ได้เป็นอย่างดี รวมถึงร่นระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณ 25-28 วัน เหลือแค่ 15-18 วัน และมีลำต้นอวบอ้วน เป็นที่ต้องการของตลาด ที่สำคัญผักบุ้งของตน เป็นการปลูกแบบปลอดสารพิษ
วันที่ 29 ก.ค.58 นายนิพัฒน์ ม่วงพานิชย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 2 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เผยว่า เดิมตนเองมีอาชีพทำสวนยางพารา และสร้างอาชีพเสริมด้วยการทำงานจักสาน เช่น กรงนก สุ่มจับปลา แต่ต่อมามีปัญหาเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับโรคไขข้อ และหมอห้ามนั่งเป็นเวลานานๆ จนเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรฯ เข้ามาแนะนำให้ลูกค้าทำอาชีพ เสริมด้วยการปลูกผัก
เกษตรกรชาวสวนยางใน จ.สุราษฎร์ธานี ปลูกผักบุ้งจีนในล้อยางรถยนต์
นายนิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากเข้ารับการอบรม ตนและภรรยาจึงได้เริ่มปลูกผัก โดยการนำยางรถยนต์ที่เขาไม่ใช้งานแล้วมาตัดเป็นกระถาง เพื่อวางไว้บริเวณรอบๆ บ้าน เนื่องจากไม่มีที่ดินที่เหมาะสมกับการปลูกผัก โดยแรกสุดตนและภรรยาทดลองปลูกพืชหลายชนิด ทั้งคะน้า ต้นหอม ผักชี และผักบุ้ง ต่อมาได้หันมาปลูกผักบุ้งจีนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงที่บ้าน ในกิโลกรัม ละ 20 บาท และสามารถขายได้ตลอดปี ส่วนราคาจะขึ้นลงตามความต้องการของตลาด แต่มีรายได้ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 25,000 บาท และทำต่อเนื่องมาแล้วกว่า 4 ปี
สำหรับขั้นตอนการปลูกผักบุ้งจีนในกระถางยางรถยนต์นั้น มีข้อดีคือ สามารถควบคุมน้ำ อาหาร และวัชพืช ได้เป็นอย่างดี รวมถึงร่นระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณ 25-28 วัน เหลือแค่ 15-18 วัน และมีลำต้นอวบอ้วน เป็นที่ต้องการของตลาด ที่สำคัญผักบุ้งของตน เป็นการปลูกแบบปลอดสารพิษ
ผักบุ้งทั้งหมด เป็นแบบปลอดสารพิษ!
ส่วนเคล็ดลับการปลูกผักบุ้ง ในกระถางยางรถยนต์นั้น นายนิพัฒน์ บอกว่า จะใช้ดินตะกอนจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานเนื่องจากเป็นดินที่ไม่มีเมล็ด วัชพืช จากนั้นนำมาตากให้แห้งแล้วใส่ลงในกระถางยางรถยนต์ที่ได้มีการเตรียมไว้แล้ว ก่อนปลูกนำเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งซึ่งแช่น้ำนาน 6-12 ชั่วโมง ไปหว่านลงบนดิน จากนั้นก็ดูแลด้วยการรดน้ำ วันละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่สภาพอากาศ ส่วนเคล็ดลับที่สำคัญคือ จะใช้น้ำหมักชีวภาพต่างๆ ทั้ง น้ำหมักพืชผักผลไม้ที่มีในท้องถิ่นทั้งเปลือกทุเรียน มังคุด กระท้อน น้ำหมักปลา นำมาฉีดบำรุงต้นผักบุ้ง และไล่แมลงไม่ให้มากินใบ ทำให้ต้นโตเร็ว ที่สำคัญเป็นการลดค่าต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยเคมีได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้แปลงปลูกผักบุ้งจีนของตน มีเพียง 50 ล้อยางรถยนต์เท่านั้นซึ่งเมื่อเทียบกับความต้องการของตลอดที่มีมากขึ้น เรื่อยๆ ตนและครอบครัวกำลังมีแผนที่จะโค่นล้มไม้ยางพาราบริเวณหลังบ้านจำนวน 3 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่ปลุกผักบุ้งจีนรองรับความต้องการของตลาดในเร็วๆ นี้
ส่วนเคล็ดลับการปลูกผักบุ้ง ในกระถางยางรถยนต์นั้น นายนิพัฒน์ บอกว่า จะใช้ดินตะกอนจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานเนื่องจากเป็นดินที่ไม่มีเมล็ด วัชพืช จากนั้นนำมาตากให้แห้งแล้วใส่ลงในกระถางยางรถยนต์ที่ได้มีการเตรียมไว้แล้ว ก่อนปลูกนำเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งซึ่งแช่น้ำนาน 6-12 ชั่วโมง ไปหว่านลงบนดิน จากนั้นก็ดูแลด้วยการรดน้ำ วันละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่สภาพอากาศ ส่วนเคล็ดลับที่สำคัญคือ จะใช้น้ำหมักชีวภาพต่างๆ ทั้ง น้ำหมักพืชผักผลไม้ที่มีในท้องถิ่นทั้งเปลือกทุเรียน มังคุด กระท้อน น้ำหมักปลา นำมาฉีดบำรุงต้นผักบุ้ง และไล่แมลงไม่ให้มากินใบ ทำให้ต้นโตเร็ว ที่สำคัญเป็นการลดค่าต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยเคมีได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้แปลงปลูกผักบุ้งจีนของตน มีเพียง 50 ล้อยางรถยนต์เท่านั้นซึ่งเมื่อเทียบกับความต้องการของตลอดที่มีมากขึ้น เรื่อยๆ ตนและครอบครัวกำลังมีแผนที่จะโค่นล้มไม้ยางพาราบริเวณหลังบ้านจำนวน 3 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่ปลุกผักบุ้งจีนรองรับความต้องการของตลาดในเร็วๆ นี้
ลำต้นอวบอ้วน เป็นที่ต้องการของตลาด
http://www.thairath.co.th/content/514839