ถ้ามีคนถามผมด้วยคำถามนี้ ผมจะตอบแบบกำปั้นทุบดินตรงๆเลยครับ “ก็เริ่มจากทำธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินซิครับ” นี่คือที่มาของบทนี้ เงินน้อยก็ทำธุรกิจได้!!! ... นำเสนอไอเดียธุรกิจที่สามารถทำโดยใช้เงินน้อยมากๆ ... การทำธุรกิจนั้นประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆคือ“คนทำ” และ “เงินทุน” ถ้าเงินทุนไม่มากก็ต้องพึ่งคนทำมากๆ อาศัยความรู้ ใช้ไอเดีย ใช้แรงกายแลแรงใจทำธุรกิจ ในบทนี้ผมจึงขอเล่าถึงประสบการณ์หรือเรื่องราวที่ได้ประสบพบเจอมาเล่าสู่กันฟัง
1. ใช้ความรู้
ใช้ความรู้ทำธุรกิจ ... เช่น
สอนพิเศษ
หลายปีก่อนสมัยผมยังเป็นนักศึกษาปริญญาตรี ผมเริ่มจับธุรกิจตัวแรก นั่นคือ "การสอนพิเศษ" ... ธุรกิจนี้รวมๆแล้วลงทุนไม่ถึง 5,000 บาท ผมลงทุนเงินในซื้อหนังสือ ม.ปลาย ลงทุนในเวลาหลายสัปดาห์ในการนั่งทบทวนเนื้อหา ซื้อกระดานไวท์บอร์ดกับปากเมจิกอีกหลายด้าม ไม่เสียค่าสถานที่เพราะสอนกันตามที่สาธารณะ โรงอาหาร หน้า ห้องสมุด ฯลฯ เจ้ากิจการนี้ทำให้ผมสร้างรายได้ให้ตัวเองได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท (บางเดือนเกิน 20,000 บาท) เป็นเวลาต่อเนื่องนานหลายปีจนผมจบการศึกษาปริญญาตรี ... นอกจากได้เงินแล้วผมยังได้ทักษะอื่นๆติดไม่ติดมือกลับมาด้วย
ทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์
เพื่อนสนิทผมคนหนึ่งเขาทำงานประจำในระดับผู้จัดการแผนก แต่นอกเวลาทำงานเขาเป็นฟรีแลนซ์ ... งานดีมีฝีมือมีงานเข้ามาไม่ขาดสายในงานสายออกแบบเว็บไซต์ โปรโมทเว็บไซต์ SEO และ การตลาดออนไลน์ เดี๋ยวนี้งานเยอะมากจนเริ่มต้องเริ่มจ่ายงานออกไปบ้างก็มี จากงานหลักและธุรกิจเสริมส่งผลให้เขามีรายรับรวมหกหลักต่อเดือน ... โดยที่แรกเริ่มเดิมทีเขาลงทุนเพียงแค่คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง กับ ค่าชั่วโมงอินเตอร์เน็ต และ หนังสือพื้นฐานกองโตๆ อีก 1 กอง
ธุรกิจเหล่านี้ใช้เงินทุนน้อยมากเพราะใช้ความรู้เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ลองหันซ้ายแลขวาดูครับว่าเรามีทีเด็ดมีความรู้แบบนี้ติดตัวอยู่บ้างหรือไม่ ถ้ามีอย่าชักช้ารีรอลุยเลย!!!
2. ใช้ไอเดีย
มองหาไอเดีย จากการสังเกต การจับจังหวะ ... ยกตัวอย่างสดๆเลยครับกับกิจการนี้ ช่วงก่อนวันปีใหม่ที่ผ่านผมไปเดินตลาดนัดตามปกติแต่สะดุดตากับร้านร้านหนึ่งซึ่งปกติไม่มี ... รับห่อของขวัญ
ไอเดียดี ที่สำคัญ ทำถูกสถานที่หน้าโลตัสน้อยซึ่งมีตลาดนัดล้อมรอบ ทำถูกเวลาซึ่งกิจการนี้เหมาะกับช่วงเทศกาลนี้ ... ผลก็คือ ลูกค้าล้นหลาม ... คาดว่าว่าวันนั้นน่าจะทำกำไรไปได้หลายพันบาท และ ด้วยกิจการนี้ลงทุนไม่มากหลายๆอย่างที่บ้านเราก็มีอยู่แล้ว กรรไกร คัตเตอร์ ค่าที่นิดหน่อย ต้นทุนแปรผันก็ไม่สูง กล่องเล็กๆใช้ต้นทุนราว 5-6 บาท (กล่องเก่า กระดาษโบว์ เทปใส) สนนราคาค่าห่อเริ่มต้น 30 บาท กำไรเน้นๆ 5 เท่า (ไม่นับรวมแรงงาน)
ที่สำคัญกิจการนี้น่าจะได้ผลพลอยได้ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ... ผมเห็นแล้วครึกครื้นดีครับ ... มากันถึงสามรุ่น คุณแม่และคุณน้าสาวทำหน้าที่ห่อของขวัญ คุณยายเก็บเงินและรับลูกค้า คุณลูกคอบหยิบกระดาษ ... น่ารักดีครับเป็นธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง …[^_^]…
3. ใช้แรงใจและความมุ่งมั่น
แรงใจและความมุ่งมั่นจะทำธุรกิจได้อย่างไร? ... ผมเชื่อ1000%ครับว่า คนที่มีแรงใจมีความมุ่งมันเกินร้อยนั้นจะมีงานทำมีธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ตัวได้เสมอถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินเลยก็ตาม
พนักงานของผมท่านหนึ่งด้วยภาระทางการเงิน หนี้สินที่แกเผชิญอยู่ อีกทั้ง บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ลูกเต้าวัยเรียนอีก 4 คน และ ด้วยนิสัยส่วนตัวของแกทำให้แกเป็นคนขยันมาก ไม่เคยเกี่ยงงาน ... ด้วยใจที่ตั้งมั่น ขยันสู้งาน ไม่ยี่ระต่อความลำบาก และ เป็นคนดีมีฝีมือ หลายๆคนก็เห็นใจและช่วยแกเต็มที่ โดยเฉพาะผม ใครสู้ๆ ใครอึดๆ แบบนี้ผมต้องสนับสนุน แกเป็นช่างประจำตัวของผมเลยก็ว่าได้ ผมมีงานนอกเวลาให้แกเสมอตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา อยากให้แกมีงานมีเงิน มีจะได้เสริมแรงใจแก ชั้นของร้านเครื่องเขียนผมกึ่งหนึ่งฝีมือแกทั้งนั้น งานช่างได้หมด บางงานก็เหมาไปบางงานก็กินแต่ค่าแรง
วันก่อนแกเข้ามาถามว่ามีอะไรให้แกทำหรือไม่ในช่วงนี้ พอดีพี่สาวผมพึ่งเป็ดร้านขายของเล่น ผมเลยยื่นข้อเสนอไปว่าสนใจหรือไม่ “ขายของเล่นตามตลาดนัด” เดี๋ยวผมบอกพี่สาวให้ เอาของจากพี่สาวผมมาให้ เปิดต้นทุนไปเลยขายได้ก็กำไรแบ่งกัน ... แกยินดีและอยากจะลอง ... ผมบอกกับแกว่าให้ลองขายดูก่อน ถ้าขายไม่ได้ก็คืนของมา หรือ ถ้าขายได้ขายดีมีจนพอทุน เดี๋ยวผมพาไปซื้อจากแหล่งมาขายเองเลยผมยินดี (เพราะร้านพี่สาวผมกับตลาดนัดที่แกจะขายอยู่ห่างกันไกลคนละจังหวัด ไม่มีผลต่อฐานลูกค้าของพี่สาวอยู่แล้ว)
และอีกตัวอย่างที่ไม่ต้องอื่นไกลตัวผมเอง ... เมื่อหลายปีก่อนผมมีทุนรอนอันน้อยนิดแต่อยากทำธุรกิจ เริ่มธุรกิจจากความมุ่งมั่นที่จะทำจนทำให้ญาติผู้ใหญ่หลายท่านให้การสนับสนุนเพราะเห็นความตั้งใจจริงของเรา
การทำธุรกิจหลายๆชนิดมันอาจจะไม่ต้องใช้ “เงิน” จำนวนมากมายเสมอไป เพราะในหลายๆธุรกิจมันเริ่มจาก “ตัวเราเอง” โดยใช้แรงกาย อาศัยแรงใจ ความมุ่งมั่น พึ่งองค์ความรู้ และ รู้จักฉกฉวยโอกาสรอบๆตัว ...
ลองพิจารณาดูครับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกท่านได้บ้าง
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านร่ำรวยอย่างยั่งยืนกันทุกๆคนนะครับ
ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิพ มาม่ากับปลากระป๋อง
จากกระทู้ http://pantip.com/topic/31524352
1. ใช้ความรู้
ใช้ความรู้ทำธุรกิจ ... เช่น
สอนพิเศษ
หลายปีก่อนสมัยผมยังเป็นนักศึกษาปริญญาตรี ผมเริ่มจับธุรกิจตัวแรก นั่นคือ "การสอนพิเศษ" ... ธุรกิจนี้รวมๆแล้วลงทุนไม่ถึง 5,000 บาท ผมลงทุนเงินในซื้อหนังสือ ม.ปลาย ลงทุนในเวลาหลายสัปดาห์ในการนั่งทบทวนเนื้อหา ซื้อกระดานไวท์บอร์ดกับปากเมจิกอีกหลายด้าม ไม่เสียค่าสถานที่เพราะสอนกันตามที่สาธารณะ โรงอาหาร หน้า ห้องสมุด ฯลฯ เจ้ากิจการนี้ทำให้ผมสร้างรายได้ให้ตัวเองได้มากกว่าเดือนละ 10,000 บาท (บางเดือนเกิน 20,000 บาท) เป็นเวลาต่อเนื่องนานหลายปีจนผมจบการศึกษาปริญญาตรี ... นอกจากได้เงินแล้วผมยังได้ทักษะอื่นๆติดไม่ติดมือกลับมาด้วย
ทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์
เพื่อนสนิทผมคนหนึ่งเขาทำงานประจำในระดับผู้จัดการแผนก แต่นอกเวลาทำงานเขาเป็นฟรีแลนซ์ ... งานดีมีฝีมือมีงานเข้ามาไม่ขาดสายในงานสายออกแบบเว็บไซต์ โปรโมทเว็บไซต์ SEO และ การตลาดออนไลน์ เดี๋ยวนี้งานเยอะมากจนเริ่มต้องเริ่มจ่ายงานออกไปบ้างก็มี จากงานหลักและธุรกิจเสริมส่งผลให้เขามีรายรับรวมหกหลักต่อเดือน ... โดยที่แรกเริ่มเดิมทีเขาลงทุนเพียงแค่คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง กับ ค่าชั่วโมงอินเตอร์เน็ต และ หนังสือพื้นฐานกองโตๆ อีก 1 กอง
ธุรกิจเหล่านี้ใช้เงินทุนน้อยมากเพราะใช้ความรู้เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ลองหันซ้ายแลขวาดูครับว่าเรามีทีเด็ดมีความรู้แบบนี้ติดตัวอยู่บ้างหรือไม่ ถ้ามีอย่าชักช้ารีรอลุยเลย!!!
ไอเดียดี ที่สำคัญ ทำถูกสถานที่หน้าโลตัสน้อยซึ่งมีตลาดนัดล้อมรอบ ทำถูกเวลาซึ่งกิจการนี้เหมาะกับช่วงเทศกาลนี้ ... ผลก็คือ ลูกค้าล้นหลาม ... คาดว่าว่าวันนั้นน่าจะทำกำไรไปได้หลายพันบาท และ ด้วยกิจการนี้ลงทุนไม่มากหลายๆอย่างที่บ้านเราก็มีอยู่แล้ว กรรไกร คัตเตอร์ ค่าที่นิดหน่อย ต้นทุนแปรผันก็ไม่สูง กล่องเล็กๆใช้ต้นทุนราว 5-6 บาท (กล่องเก่า กระดาษโบว์ เทปใส) สนนราคาค่าห่อเริ่มต้น 30 บาท กำไรเน้นๆ 5 เท่า (ไม่นับรวมแรงงาน)
ที่สำคัญกิจการนี้น่าจะได้ผลพลอยได้ด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ... ผมเห็นแล้วครึกครื้นดีครับ ... มากันถึงสามรุ่น คุณแม่และคุณน้าสาวทำหน้าที่ห่อของขวัญ คุณยายเก็บเงินและรับลูกค้า คุณลูกคอบหยิบกระดาษ ... น่ารักดีครับเป็นธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง …[^_^]…
3. ใช้แรงใจและความมุ่งมั่น
แรงใจและความมุ่งมั่นจะทำธุรกิจได้อย่างไร? ... ผมเชื่อ1000%ครับว่า คนที่มีแรงใจมีความมุ่งมันเกินร้อยนั้นจะมีงานทำมีธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ตัวได้เสมอถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินเลยก็ตาม
พนักงานของผมท่านหนึ่งด้วยภาระทางการเงิน หนี้สินที่แกเผชิญอยู่ อีกทั้ง บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ลูกเต้าวัยเรียนอีก 4 คน และ ด้วยนิสัยส่วนตัวของแกทำให้แกเป็นคนขยันมาก ไม่เคยเกี่ยงงาน ... ด้วยใจที่ตั้งมั่น ขยันสู้งาน ไม่ยี่ระต่อความลำบาก และ เป็นคนดีมีฝีมือ หลายๆคนก็เห็นใจและช่วยแกเต็มที่ โดยเฉพาะผม ใครสู้ๆ ใครอึดๆ แบบนี้ผมต้องสนับสนุน แกเป็นช่างประจำตัวของผมเลยก็ว่าได้ ผมมีงานนอกเวลาให้แกเสมอตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา อยากให้แกมีงานมีเงิน มีจะได้เสริมแรงใจแก ชั้นของร้านเครื่องเขียนผมกึ่งหนึ่งฝีมือแกทั้งนั้น งานช่างได้หมด บางงานก็เหมาไปบางงานก็กินแต่ค่าแรง
วันก่อนแกเข้ามาถามว่ามีอะไรให้แกทำหรือไม่ในช่วงนี้ พอดีพี่สาวผมพึ่งเป็ดร้านขายของเล่น ผมเลยยื่นข้อเสนอไปว่าสนใจหรือไม่ “ขายของเล่นตามตลาดนัด” เดี๋ยวผมบอกพี่สาวให้ เอาของจากพี่สาวผมมาให้ เปิดต้นทุนไปเลยขายได้ก็กำไรแบ่งกัน ... แกยินดีและอยากจะลอง ... ผมบอกกับแกว่าให้ลองขายดูก่อน ถ้าขายไม่ได้ก็คืนของมา หรือ ถ้าขายได้ขายดีมีจนพอทุน เดี๋ยวผมพาไปซื้อจากแหล่งมาขายเองเลยผมยินดี (เพราะร้านพี่สาวผมกับตลาดนัดที่แกจะขายอยู่ห่างกันไกลคนละจังหวัด ไม่มีผลต่อฐานลูกค้าของพี่สาวอยู่แล้ว)
และอีกตัวอย่างที่ไม่ต้องอื่นไกลตัวผมเอง ... เมื่อหลายปีก่อนผมมีทุนรอนอันน้อยนิดแต่อยากทำธุรกิจ เริ่มธุรกิจจากความมุ่งมั่นที่จะทำจนทำให้ญาติผู้ใหญ่หลายท่านให้การสนับสนุนเพราะเห็นความตั้งใจจริงของเรา
การทำธุรกิจหลายๆชนิดมันอาจจะไม่ต้องใช้ “เงิน” จำนวนมากมายเสมอไป เพราะในหลายๆธุรกิจมันเริ่มจาก “ตัวเราเอง” โดยใช้แรงกาย อาศัยแรงใจ ความมุ่งมั่น พึ่งองค์ความรู้ และ รู้จักฉกฉวยโอกาสรอบๆตัว ...
ลองพิจารณาดูครับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกท่านได้บ้าง
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านร่ำรวยอย่างยั่งยืนกันทุกๆคนนะครับ
ขอขอบคุณ สมาชิกพันทิพ มาม่ากับปลากระป๋อง
จากกระทู้ http://pantip.com/topic/31524352