แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ประกันสังคม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ประกันสังคม แสดงบทความทั้งหมด

อ่านสักนิด "เงินบำนาญจากประกันสังคม"

เกษียณแล้วได้เงินจากประกันสังคมเท่าไหร่?



ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับประกันสังคมบ่อยเช่นมีข่าวเรื่องเพิ่มสิทธิประโยชน์เรื่องการรักษาพยาบาลและล่าสุดคือมีการใช้มาตรา44ปรับคณะทำงานของประกันสังคมใหม่ซึ่งอาจจะมีปัญหาบางอย่างภายในที่จะต้องทำแบบนั้นก็ได้แต่สิ่งหนึ่งที่ท้าทายคือประกันสังคมจะจ่ายเงินเกษียณให้ลูกจ้างอย่างไร

พวกคุณรู้หรือไม่ว่าหลังเกษียณอายุเงินที่คุณจะได้รับคืนจากประกันสังคมมีจำนวนเงินเท่าไหร่

โดยปกติแล้วเราจะจ่ายเงินให้ประกันสังคมอยู่ที่ 5%ของเงินเดือนทุกเดือนซึ่งเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทหมายความว่าคุณมีเงินเดือน 20,000บาทคุณจะจ่ายเงินให้ประสังคม 15,000 x 5% = 750บาท

แต่ช้าก่อน5%มิใช่เป็นเงินเพื่อการเกษียณทั้งหมดเงินเพื่อเกษียณจะมีแค่3%เท่านั้นหรือ450บาทโดยถ้ารวมกับที่นายจ้างสมทบและรัฐบาลกันงบไว้จะเป็น7%หรือ1,050บาทถ้าเงินเดือนคุณเกิน15,000บาท

การคำนวณเงินชราภาพของผู้ประกันตนมีดังนี้
1. จ่ายเงินสมทบเกิน180เดือนจะได้เงินบำนาญชราภาพ
คำนวณโดยใช้สูตร20%+((จำนวนเดือนสมทบ-180)/12*1.5%)คูณกับค่าเฉลี่ยเงินเดือน60เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ผู้ประกันตนอายุ30ปีเงินเดือน20,000บาทจ่ายเงินสมทบทั้งหมดก่อนเกษียณ300เดือนคาดว่าจะมีเงินเดือนก่อนเกษียณเฉลี่ย60เดือนย้อนหลังอยู่ที่ 70,000 บาทแต่ก็จะโดนจำกัดที่ 15,000 บาทเหมือนเดิม ดังนั้นค่าเฉลี่ยเงินเดือน 60 เดือนจะเท่ากับ 15,000 บาท
เพราะฉะนั้นเงินเกษียณเป็นบำนาญจะได้เท่ากับเดือนละ15,000x(20%+((300-80)/12)*1.5%=5,250บาทต่อเดือน

2. จ่ายเงินสมทบไม่เกิน180เดือนและไม่เกิน12เดือน
จะได้เป็นบำเหน็จเท่าจำนวนที่ตัวเองจ่ายเท่านั้นเช่นจ่ายเงินสมทบของตัวเอง450บาทต่อเดือนเป็นเวลา11เดือนก็จะได้เงินจำนวน450x11=4,590บาท

3.จ่ายเงินสมทบไม่เกิน180เดือนและเกิน12เดือน
จะได้เงินสมทบตัวเองนายจ้างและรัฐบาล+ผลประโยชน์หมายถึงกำไรจากที่ประกันสังคมเอาเงินไปลงทุนซึ่งอาจจะอยู่ราว3-6%โดยที่ในปี2557อยู่ที่3.66%

เห็นตัวเลขแบบนี้แล้วคุณยังจะรอเงินเกษียณจากประกันสังคมอยู่หรือไม่?
ลองคิดดูอีก 10 ปี อีก 20 ปีข้าวของเครื่องใช้จะแพงขึ้นเพราะเงินเฟ้อ
เงินบำนาญ 5,000 บาทต่อเดือนคุณอยู่ได้หรือไม่???

ขอทำความเข้าใจก่อนว่าประกันสังคมถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบบออมเพื่อเกษียณอายุโดยจะเป็นการออมภาคบังคับเน้นสร้างหลักประกันและความมั่นคงมีรายได้หลังเกษียณไม่ให้ตกสู่ความยากจน

ประกันสังคมไม่ได้เน้นความมั่งคั่งดังนั้นถ้าคุณคิดว่าหลังเกษียณจะใช้เงินประกันสังคมให้คุณคิดใหม่นะครับอย่ารอเงินเกษียณจากประกันสังคม!ให้คุณเริ่มเก็บเงินเกษียณด้วยวิธีอื่นเพิ่มซึ่งมีอยู่หลายทางเช่น RMF ประกันบำนาญหรือซึ้อกองทุนต่างๆ

สิ่งที่คุณควรจะทำคือ“จงวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณไว้เป็นเป้าหมายหลักของชีวิตคุณ”

อย่าทิ้งเงินก้อนโตให้เสียเปล่า! เงินประกันสังคมรับคืนได้ แค่ทำตามเงื่อนไขนี้ ใครจ่ายไว้ก็ไปรับซะ บางคนได้เกือบแสนแต่ไม่รู้!



วันนี้ทีมงานสยามนิวส์ มีสิ่งดีๆมาฝากท่านมนุษย์เงินเดือนกันจ้า (ถ้าใครทราบแล้วก็อ่านซ้ำได้นะคะ)

สำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคนที่ต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทุก ๆ เดือน แต่เราเคยสงสัยกันไหมว่า สำนักงานประกันสังคมเขาเอาเงินที่เราจ่ายทุกๆเดือนไปทำอะไร

หลายๆคนมักบ่นว่า จะส่งไปทำไม ประกันสังคมเนี่ย ส่งไปก็ไม่ได้ใช้.. ได้ใช้แน่นอนค่ะ เงินที่เราส่งไป ไม่ใช่ส่งทิ้งไปเปล่าๆ เค้าจะคืนให้เรา เมื่อถึงเวลา และแถมดอกเบี้ยให้อีกตะหาก แล้วจะได้คืนเมื่อไรล่ะ? ไปดูกันเลยค่ะ

ระบบประกันสังคม เป็นสิ่งที่ต่างประเทศมีมานานแล้วแต่เมืองไทยเพิ่งเริ่มจะมี โดยประกันสังคมเป็นระบบที่บังคับให้ทุกคนออมเงินส่วนหนึ่ง (5% ของเงินเดือน)
ข้อดีของประกันสังคม คือลูกจ้างอย่างเรา จะจ่ายเงินประกันนี้ (เรียกว่าเงินสมทบ) เพียง 1 ใน 3 ส่วนเท่านั้น เพราะผู้ที่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ
  1. รัฐบาล
  2. นายจ้าง
  3. ลูกจ้าง
ดังนั้นลูกจ้างจึง จ่ายเงินเข้ากองทุนเพียง 5% ของค่าจ้าง และรัฐบาลสมทบอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งทำให้เราได้รับผลประโยชน์มากขึ้น คุ้มค่าเกินกว่ามูลค่าเงินที่เราลงไป
ในแต่ละเดือนของประกันสังคม แบ่งเงิน ไปทำอะไร อย่างไหนบ้าง !? สำหรับเงิน 750 บาท ในแต่ละเดือนของประกันสังคม จะถูกแบ่งเป็น

  1. 225 บาท สำหรับดูแลเรื่องเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต ถ้าไม่ใช้สิทธิ เงินส่วนนี้ก็จะหายไป ไม่ได้รับคืน
  2. 75 บาท สำหรับใช้ประกันการว่างงาน ถ้าว่างงานเมื่อไหร่ สามารถเอาเงินส่วนนี้มาใช้ในระหว่างตกงานหรือรอหางานใหม่ แต่ถ้าไม่ว่างงานเลย เงินส่วนนี้ก็จะหายไป ไม่ได้รับคืน
  3. 450 บาท สำหรับเก็บเป็นเงินออม จะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 55 ปี
โดยเงื่อนไข การได้เงินก้อนสุดท้าย (เงินออม เมื่อครบ 55 ปี คืน) คือ
  1. จ่ายประกันสังคมไม่ครบ 1 ปี ได้คืนส่วนที่จ่ายเป็นเงินก้อน เรียกว่าบำเหน็จชราภาพ เช่น จ่ายเดือนละ 750 บาทมาโดยตลอด 10 เดือน (750 บาท จะถูกหักเป็นเงินออม 450 บาท) เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้คืน 450 บาท x 10 เดือน = 4,500 บาท
  2. จ่ายครบ 1 ปี แต่ ไม่ถึง 15ปี จะได้เป็นเงินก้อนเรียกว่าบำเหน็จเช่นกัน แต่จะมากกว่า ข้อ 3.1 คือ ได้ส่วนที่นายจ้างสมทบไว้ด้วย เช่น จ่าย 750 บาท ตลอด 7 ปี (84 เดือน) ที่จะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 55 ปี คือ 450 บาท (ส่วนที่ตนเองจ่าย) + 450 บาท (ส่วนที่นายจ้างจ่าย) x 84 เดือน = 75,600 บาท
  3. จ่ายตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จะได้รับเป็นเงินรายเดือน เรียกว่า บำนาญ-ชราภาพ โดยคำนวณ 2 กรณี คือ
กรณีจ่ายครบ 15 ปีพอดี จะได้รับรายเดือน คือ 20% ของเฉลี่ยเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย เช่น 60 เดือนสุดท้าย เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 15,000 บาท จะได้รับ 20% คือ เดือนละ 3,000 บาท ไปจนเสียชีวิต

กรณีสมทบมากกว่า 15 ปี จะได้รับโบนัสเพิ่ม 1.5% ของเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย หากครบปี เช่น จ่ายครบ 20 ปี รายเดือนที่จะได้รับ คือ 20%ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน + 1.5% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน x 5 ปี (จ่าย 20 ปี เกินจากที่กำหนดขั้นต่ำมา 5 ปี) เช่น เฉลี่ยเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย เท่ากับ 15,000 บาท จะได้รายเดือน คือ (20% x 15,000 บาท) = 3,000 บาท + (1.5% x 15,000 บาท x 5 ปี) = 3,375 บาท รวมเป็น 6,375 บาท ต่อเดือนไปจนเสียชีวิต

กรณีที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้ว แต่ยังไม่ครบ 5 ปีเลย แล้วเสียชีวิตไปก่อน ล่ะ กรณีเช่นนี้ จะได้รับบำเหน็จ 10 เท่า ของเดือนสุดท้าย ของ เงินบำนาญ ที่ได้รับเช่น รับเงินรายเดือน เดือนล่าสุด 6,375 บาท ตายปุ๊บ รับ 63,750 บาท

เป็นยังไงกันบ้างละค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ ที่ทางทีมงานสยามนิวส์ได้จัดหามาให้ได้ดูกันจ่ายไปเถอะค่ะ ยังไงก็ได้คืน คุ้มด้วย อิอิ

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
cr: siamnews.com

ประกันสังคม เพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ เป็น 1,500 บาท เริ่ม 1 ก.ค. 60

กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เผยมติบอร์ดประกันสังคม อนุมัติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยประกันสังคมเหมาจ่ายรายหัวจากเดิม 1,460 บาท/คน/ปี เป็น 1,500 บาท/คน/ปี เริ่ม 1 กรกฎาคม 2560



หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน และประธานคณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยถึง มติคณะกรรมการประกันสังคมในคราวประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 10/2560 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ว่าที่ประชุมมีมติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัวจากเดิม 1,460 บาท/คน/ปี เป็น 1,500 บาท/คน/ปี

และเห็นสมควรปรับค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาล ที่ต้องรับภาระกรณีโรคที่มีภาระเสี่ยงทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเป็น 447 บาท/คน/ปี รวมถึงปรับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูง เป็น 640 บาท และกรณีการรักษาผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายเกินหนึ่งล้านบาท ได้เพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ ให้สถานพยาบาลในอัตราร้อยละ 80 ของค่าใช้จ่ายที่เกินหนึ่งล้านบาท ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข ที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนด

ขอบคุณที่มา สนุกดอทคอม

เช็กด่วน ! รพ.เอกชน ประกันสังคม ที่ไหนว่าง-เต็มแล้วบ้าง รีบแจ้ง ก่อนหมดสิทธิเปลี่ยน รพ. 31 มี.ค.นี้


เช็กด่วน ! รพ.เอกชน ประกันสังคม ที่ไหนว่าง-เต็มแล้วบ้าง
รีบแจ้ง ก่อนหมดสิทธิเปลี่ยน รพ. 31 มี.ค.นี้

ทุกปี สำนักงานประกันสังคมจะเปิดโอกาสให้กับผู้ประกันตน กองทุนประกันสังคม สามารถแจ้งเปลี่ยนรายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกที่อาจย้ายที่อยู่ ที่ทำงาน

โดยปี 2560 นี้ สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้แจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2560 โดยผู้ประกันตนสามารถแจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาทุกแห่ง

ในปี 2560 มีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมทั่วประเทศจำนวน 239 แห่ง แบ่งเป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล 159 แห่ง สถานพยาบาลเอกชน 80 แห่ง และมีสถานพยาบาลที่ไม่เข้าร่วมโครงการประกันสังคม จำนวน 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลปิยะมินทร์ จ.สมุทรปราการ และโรงพยาบาลรักษ์สกล จ.สกลนคร

สำหรับโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 80 แห่งที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมนั้น จะมีการจำกัดจำนวนผู้ที่จะใช้สิทธิ์ไว้ในแต่ละโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีบางโรงพยาบาลที่มีผู้แจ้งขอใช้สิทธิเต็มจำนวนที่เปิดให้ใช้สิทธิแล้ว 12 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 68 แห่ง ผู้ประกันตนยังสามารถแจ้งใช้สิทธิได้ มาดูรายละเอียดกันว่า มีโรงพยาบาลใดบ้างที่ยังสามารถใช้สิทธิได้ และโรงพยาบาลไหนเต็มแล้วบ้าง!

โพสต์โดยสมาชิก : ครองแครง