แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาชีพเสริม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาชีพเสริม แสดงบทความทั้งหมด

อดีตครูใช้เวลาว่าง ทำไม้กวาดทางมะพร้าวขาย สร้างรายได้เสริมเดือนละหมื่น

อดีตครูวัย 64 เก็บก้านมะพร้าวแห้งที่หลายคนมองไร้ค่า ทำไม้กวาดทางมะพร้าวขาย สร้างรายได้เสริมเดือนละกว่าหมื่นบาท ทั้งยังนำไปแจกฟรีให้ ร.ร. ที่เคยสอนด้วย



นายชาญชัย จำปาหอม อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เลือกงาน ไม่นิ่งเฉย ใช้เวลาว่างหลังเกษียณอายุราชการทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายเป็นอาชีพและรายได้เสริม โดยนำความรู้จากการเข้าร่วมอบรมการทำหัตถกรรมจักสาน สมาคมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลบ้านด่าน มาประยุกต์

ส่วนวัสดุก็หาได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะก้านมะพร้าวที่หลายคนมองว่าไร้ค่า ก็สามารถหาได้ในหมู่บ้านโดยไม่ต้องลงทุนซื้อ ส่วนไม้ไผ่ที่นำมาทำเป็นด้ามไม้กวาดก็หาได้จากท้องถิ่นเช่นกัน อุปกรณ์ที่ต้องซื้อก็มีแค่เพียงเชือกไนล่อน และตะปูที่ใช้ในการตอกยึดและถักเท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการทำไม้กวาดทางมะพร้าวก็ไม่ได้ยุ่งยาก


  1. เริ่มต้นจากการนำก้านมะพร้าวมาเหลาเอาใบออก แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง 
  2. จากนั้นนำก้านมะพร้าวมามัดเป็นกำ กำละ 10 อัน ให้ได้ 30-40 มัด 
  3. นำมาถักเรียงกัน จากนั้นนำมาประกอบใส่ด้ามไม้ไผ่ที่เหลาเตรียมไว้ 
  4. แล้วมัดด้วยลวดหรือหนังยางอีกรอบ ตอกตะปูยึดให้แน่น 
  5. ขั้นตอนสุดท้ายก็ใช้เชือกไนล่อนถักร้อยขึ้น-ลงให้แน่นหนามากขึ้นและดูสวยงามด้วย
โดยไม้กวาดที่ทำเสร็จแล้วก็จะใส่รถเข็นตระเวนขายในหมู่บ้าน และส่งขายตามตลาด จนปัจจุบันมีลูกค้าประจำมารับซื้อถึงบ้าน จนบางช่วงทำไม่ทัน แต่ลูกค้าก็จะสั่งจองไว้แล้วมารับทีหลัง ด้วยความขยันและไม่หยุดนิ่งของครูชาญชัยที่ใช้เวลาว่างหลังเกษียณทำไม้กวาดขาย ก็ทำให้มีรายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 8,000 – 10,000 บาท


นอกจากนี้ ครูชาญชัยยังได้นำไม้กวาดทางมะพร้าวที่ทำไว้ไปมอบฟรีให้กับโรงเรียนหลายแห่งที่ตัวเองเคยสอนด้วย ทั้งยังพร้อมจะสละเวลา แรงกาย แรงใจ นำความรู้ที่มีไปถ่ายทอดให้กับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจได้นำไปทำเป็นอาชีพอีกด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหา
ที่มา http://money.sanook.com/487937/

รายได้รายวันจากข่าอ่อน

รายได้รายวันจากการขายข่าอ่อนในสวนเกษตรผสมผสาน
วิธีการขุดข่าอ่อน เทคนิคการทำให้ข่าอ่อนสวยงามและแทงหน่อได้มาก ดูแปลงปลูกข่าอ่อนผสมผสานในสวนกล้วย ปลูกข่าอ่อนเป็นอาชีพที่น่าสนใจเพราะมีคนทำน้อยและผลผลิตยังไม่เพียงพอ

ลองดูคลิบวิดีโอปลูกข่ากันเลยครับ เผื่อเป็นรายได้เสริมให้เพื่อนๆกัน




แนวทางสำหรับที่ดินเพียง 1 ไร่ ทำได้ มีเงินใช้แน่นอน

ที่ดินเพียง 1 ไร่ อาจดูไม่มากมายนัก แต่หากมีการศึกษา จัดระเบียบกระบวนการคิด และวางแผนอย่างรอบคอบ เราก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า สามารถสร้างรายได้ และสร้างความสุขให้กับครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ด้วยการทำ เกษตรผสมผสาน
พื้นที่ 1 ไร่ จะมีการแบ่งการใช้สอยออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย และส่วนสำหรับปลูกพืชผลทางการเกษตร โดยจากการศึกษาของคุณวีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (วิสาหกิจชุมชนเพชรพิมาย) จะแนะนำให้แบ่งพื้นที่ 1 งานสำหรับสร้างบ้าน และบ่อเก็บน้ำ และเหลือพื้นที่ 3 งาน สำหรับการเพาะปลูก เน้นการปลูกพืช 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะยาว และระยะยาว  
พืชระยะสั้น
เป็นพืชที่ใช้ระยะเวลาการปลูกสั้นๆ เน้นเก็บไว้ทานในครอบครัว และหากมีจำนวนมากเกินความต้องการ ก็สามารถนำมาขาย เพื่อเป็นรายจ่ายในชีวิตประจำวัน แต่เนื่องจากเรามีพื้นที่น้อย จึงต้องวางแผนการปลูก เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม ราคาดี ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า 
พืชระยะกลาง
เป็นไม้ผล และผลไม้ระยะกลาง ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการปลูก อาจเก็บผลผลิตได้ปีละ 1-2 ครั้ง หรือตามฤดูกาล เช่น มะนาว มะพร้าว มะละกอ กล้วย มะม่วง เป็นต้น โดยรายได้ส่วนนี้จะเก็บไว้สำหรับชำระหนี้ เป็นเงินออม หรือเป็นทุนในการซื้อเครื่องทุนแรงต่างๆ เช่น ระบบน้ำ หรือเครื่องตัดหญ้า เป็นต้น และด้วยข้อจำกัดของเนื้อที่ เราจึงต้องเน้นทำให้ผลผลิตออกในช่วงที่มีราคาแพง เช่น การปลูกมะนาวให้ออกลูกในช่วงหน้าแล้ง เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น เป็นต้น 
พืชระยะยาว
เป็นกลุ่มไม้เศรษฐกิจ ที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะสามารถเก็บเกี่ยว หรือใช้ประโยชน์ได้ เช่น สักทอง ยางนา ไม้เต็ง ไม้แดง หรือไม้ประดู่ เป็นต้น โดยต้นไม้เหล่านี้เราจะเน้นการปลูกตามแนวเขตแดน หรือปลูกเป็นรั้ว เน้นปลูกช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งแนวชายแดนของพื้นที่ 1 ไร้ จะมีความยาวมากถึง 160 เมตร หากเราปลูกต้นไม้ในระยะ 2 เมตร/ต้น ก็จะได้ไม้เศรษฐกิจ 80 ต้น ในช่วงระหว่างที่ไม้เศรษฐกิจเหล่านี้กำลังเติบโต พื้นที่ระหว่างต้น ก็สามารถปลูกมะละกอ พันธ์ดีแซมระหว่างกลางได้ เช่น พันธ์แขกดำ แขกนวล พันธ์ต้นเตี้ย เพชรพิมาย เป็นต้น 
ในช่วงปีแรกรายได้ต่อเดือนอาจจะเป็หลักพันบาท แต่ในปีต่อๆไป เมื่อต้นไม้เริ่มโตขึ้น ออกดอก ออกผลมากขึ้น เราก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราควรต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย ไม่ใช้จ่ายเกินตัว 
ข้อดีของการปลูกพืชในพื้นที่น้อย
1. สามารถดูและ และควบคุมได้ทั่วถึง
2. ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานเยอะ สามารถทำเองได้ภายในครอบครัว
3. เนื่องจากมีเนื้อที่จำกัด จึงต้องปลูกพืชแบบผสมผสาน มีความเสี่ยงน้อย
4. เริ่มต้นแบบเล็กๆ เมื่อได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีประสบการณ์มากขึ้น ก็สามารถขยายเพิ่มเติมได้ง่าย
ข้อมูลจาก : wisdomking.or.th , คุณวีรยุทธ ศรีเลอจันทร์

7 อาชีพเสริมหลังเลิกงานประจำ

7 งานเสริมที่น่าสนใจและพอเป็นแนวทางการหารายได้เพิ่มหรับเพื่อนๆที่ทำงานประจำครับ ที่มาจาก สยามอาชีพ



  1. ขายของตลาดนัด เป็นอาชีพเสริมยอดฮิตของคนเริ่มต้นหารายได้เสริม ข้อดีคือมันเป็นอะไรที่เห็นภาพชัดเจน และที่สำคัญอาชีพค้าขายเห็นเงินเร็วค่ะ หากอยากจะขายของควรมีเวลาว่าง 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ถ้าเวลาน้อยกว่านี้ก็คงเตรียมและขายไม่ทันแล้วแหละ
  2. ทำงาน Part time อันนี้จะต้องมีเวลาว่างที่สม่ำเสมอ ถึงแม้จะเลือกเวลาทำงานได้ แต่ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัท (บางบริษัทกำหนดขั้นต่ำ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นต้น) ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปค่ะ ข้อดีคือเหมาะกับนักเรียนนักศึกษาเพราะมีเวลาว่างที่กำหนดได้ วันไหนไม่มีเรียนก็มาทำงาน part time ได้
  3. รับซ่อมแซมเสื้อผ้า หรือถ้าใครมีจักรเย็บผ้าด้วยยิ่งดี สามารถรับ ปะ,ซ่อมแซม, แก้ทรงได้สบาย อาชีพนี้ต้องอาศัยฝีมือสักหน่อย ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้นแต่มีใจรักก็สามารถทำได้ไม่ยาก ใช้ทักษะจากที่เคยเรียนวิชางานบ้านตอนเด็กๆ และเรียนรู้เพิ่มเติมเอาจาก YouTube ข้อดีคือพอเลิกงานเราก็ไม่ต้องเสียเวลาไปทำงาน part time หรือขายของนอกบ้าน รีบกลับเข้าบ้านแล้วนั่งซ่อมเสื้อผ้า ได้พักที่ห้องสบายใจ แถมมีรายได้เข้ากระเป๋าด้วย
  4. รับจ้างรีดเสื้อผ้า การหาลูกค้าก็จากละแวกบ้านหรือจากหอพักนั่นเองค่ะ ทำโบรชัวร์ไปติดประกาศในลิฟต์ของหอ “เตารีด” อาจจะมีกันทุกบ้าน แต่ที่อาชีพนี้น่าสนใจเพราะหลายคนไม่มีแม้แต่ “เวลา”จะรีดผ้า ข้อดีคือไม่ต้องใช้พรสวรรค์เหมือนงานรับซ่อมเสื้อผ้า แต่การรีดเสื้อผ้าใครๆก็ทำได้ แถมอุปกรณ์เตารีดก็ไม่ต้องลงทุนซื้อใหม่ด้วย
  5. รับพิมพ์งาน ต้นฉบับอาจจะเป็น PDF ผู้ว่าจ้างจึงต้องการให้พิมพ์งานลงใน Microsoft word ข้อดีคือไม่ต้องลงทุนและไม่เสี่ยงขาดทุน ใครที่มีความสามารถในการพิมพ์ดีดอย่ารอช้านะคะ
  6. ทำงานฝีมือ สำหรับใครที่ชอบเย็บปักถักร้อย ชอบประดิษฐ์ของใช้น่ารักๆ ลองหัดทำงานฝีมือแล้วลงขายใน Internetดูนะคะ เริ่มต้นจากจุดเล็กๆที่เราชอบ ในช่วงเริ่มต้นอาจจะได้กำไรไม่เยอะ แต่ยังไงก็ยังมีข้อดี คือเราได้รับความสุขเต็มๆตั้งแต่เริ่มทำแล้วแหละค่ะ หลังจากนั้นเงินจะตามมาเอง
  7. เป็นตัวแทนขายสินค้า online เป็นตัวแทนขายเสื้อผ้าแฟชั่น หรือของที่ฮิตตามกระแส ข้อดีคือไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอง แค่ขยันโพสต์ อัพรูปบ่อยๆก็หาเงินได้ไม่ยาก

สูตรหมูทอดเชียงราย ทำกินก็ดี ทำขายก็ได้

ไปเจอสูตรหมูทอดเชียงรายจากเวปพันทิพครับ มีเห็นว่า น่ากินมากแถมยังน่าสนใจทำไปขายเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย เพราะมีภาพและวิธีการทำอธิบายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ผมเห็นว่าเพื่อนๆทำตามไม่ยากแน่นอนครับ ลองดูกันเลยกับสูตรหมูทอดเชียงราย

จากคุณ swin สมาชิกเวปไซต์พันทิพ
 http://pantip.com/topic/35111081


เนื้อคอหมูย่างจะมีมันหมูแทรกปนอยู่กับเนื้อ นำมาหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 3 - 4 มม. นำมาปรุงรสด้วยซอสปรุงรส เหล้าจีน พริกไทย แล้ว คลุกกับไข่ไก่ และ แป้งมันฮ่องกง นำไปทอด 2 ครั้ง ทอดครั้งแรกใช้ไฟกลางน้ำมันร้อนปานกลางให้เนื้อหมูสุก ทอดครั้งที่สองด้วยไฟแรงน้ำมันร้อนจัดให้ผิวกรอบ ทานพร้อมกับแจ่วพริกป่นและข้าวเหนียว

เนื้อคอหมูย่าง นำมาหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 3 - 4 มม.


ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส เหล้าจีน พริกไทย แล้ว คลุกกับไข่ไก่ และ แป้งมันฮ่องกง


นำไปทอด 2 ครั้ง ทอดครั้งแรกใช้ไฟกลางน้ำมันร้อนปานกลางให้เนื้อหมูสุก ทอดครั้งที่สองด้วยไฟแรงน้ำมันร้อนจัดให้ผิวกรอบ


เนื้อหมูทอดครั้งแรก และ ครั้งที่ 2


นึ่งข้าวเหนียว
ข้าวเหนียวนำไปแช่น้ำก่อน 2 ช.ม. นำไปนึ่งในหวด จนข้าวเหนียวสุก แล้วเอาน้ำประมาณ 1/2 ถ้วยทลงไปในหวด นึ่งต่ออีก 10 นาทีจะได้ข้าวเหนียวที่นิ่ม

เอาข้าวเหนียวมาผึ่งในถาด พอข้าวเหนียวเย็น เอาใส่กระติ้บ



หมูทอดเชียงราย


ข้าวเหนียวแจ่ว พริกป่น



สูตรการทำ ‘ ขนมจีนซาวน้ำโบราณ ‘ทำขายน่าจะดี

ไปเจอบทความจากเวปไซต์ พันทิพ เห็นว่ามีประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหาอาชีพเสริมทำ หรืออยากทำ ขนมจีน กินกันที่บ้าน อันนี้น่าสนใจมากเลยครับ เพื่อนๆลองอ่านรายละเอียดแล้วลองทำตามดู ไม่แน่เพื่อนๆอาจมีร้านขนมจีนอร่อยๆ ขายที่พิษณุโลกนะครับ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้นัทมาชวนทำขนมจีนซาวน้ำ แบบโบราณกันค่ะ โบราณตามที่สูตรนัทมีจะใส่ลูกมะดันหรือตะลิงปลิง( เวลาทานอาจจะไม่ต้องบีบมะนาวเลยค่ะ หรือใครชอบมะนาวก็ใส่เพิ่มได้ค่ะ)ส่วนน้ำกระทิสำหรับราดนั้นก็ต้องมีลูกชิ้นปลากรายด้วยค่ะ สูตรนี้อร่อยมากค่ะ 
ส่วนผสม
1. ขนมจีน
2. หัวกะทิ
3. เนื้อปลากรายขูด
4. รากผักชี
5. กระเทียม
6. พริกไทย
7. ขิงอ่อน
8. พริกขี้หนูซอย
9. สับปะรดศรีราชา
10. ไข่เป็ด
11. กุ้งแห้ง
12. เกลือป่น
13. มะนาว
14. ลูกมะดันหรือตะลิงปลิง
15. น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปิ๊บเคี่ยว

มาเตรียมส่วนผสมกันก่อนคร่า


โขลก กระเทียม รากผักผักชี และพริกไทย เข้าด้วยกันลงในครก จากนั้นใส่เนื้อปลากรายลงไป และนำน้ำแข็งใส่เกลือลงในชาม แล้วเอาสากลงไปจุ่มแล้วเอามาตำในเนื้อปลากรายเพื่อให้เหนียว และเราก็ตำจนปลากรายเหนียวเป็นอันใช้ได้ค่ะ


จากนั้นต้มน้ำให้เดือดและแล้วปั้นเนื้อปลากรายเป็นก้อนๆ(หรือจะเรียกว่าลูกชิ้นปรากรายก็ได้)ลงไปต้มให้สุก จากนั้นตักขึ้นใส่น้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็งลงไปด้วย เพื่อให้ลูกชิ้นเด้งๆ (ตอนแช่ในน้ำแข็งลืมถ่ายรูปมาค่ะ)


แล้วเราก็เอาหัวกะทิลงภาชนะ เปิดไฟใส่เกลือเล็กน้อย แล้วใส่เนื้อลูกชิ้นปลากรายที่เราต้มแล้วลงไปในน้ำกะทิค่ะ เอาแค่เดือดปุดๆอย่าให้กะทิแตกมันเด็ดขาดค่ะ


จากนั้นเราก็มาเตรียมเคียงกันค่ะ ขนมจีน สามารถนำมาทานเลยได้ค่ะ หรือจะเอามานึ่งก่อนแล้วค่อยนำมาทาน ก็ได้ค่ะ


นำขิงอ่อนมาซอยและ มะดันมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วหั่นมะนาวเป็นฉีกแล้วพักไว้


นำสับปะรดศรีราชามาหั่นเป็นชั้นเล็กๆ


นำไข่เป็ดไปต้มเป็นไข่ยางมะตูมและผ่าครึ่งค่ะ


นำกุ้งไปโขลกให้ละเอียดให้ขึ้นฟู (กุ้งถ้าเค็มมากแนะนำให้แช่น้ำแล้วค่อยนำไปโขลกค่ะ)


หั่นกระเทียมและพริกเป็นชิ้นเล็กๆ


ตักลูกชิ้นปลากรายพร้อมน้ำกะทิใส่ชามไว้ค่ะ


น้ำตาลทราย (บางสูตรอาจใช้น้ำตาลปิ๊บเคี่ยว และปรุงรส)


เครื่องเคียงเสร็จหมดแล้วค่ะ


จากนั้นก็นำขนมจีนลงใส่จานและตามด้วยเครื่องเคียงต่างๆและราดด้วยน้ำกะทิพร้อมลูกชิ้นปลากราย


ขอจบวิธีทำขนมจีนซาวน้ำไว้เพียงแค่นี้

ขอขอบคุณผู้เผยแพร่
สมาชิกเวปไซต์พันทิพ นัทจัง สบายดี กระทู้  วิธีทำขนมจีนซาวน้ำ แบบโบราณ