แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งานเสริม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งานเสริม แสดงบทความทั้งหมด

ข้าวเหนียวห่อใบตอง สร้างรายได้วันละหมื่น

วันที่ 8 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยกตลาดอาจารย์มนัส ตลาดสดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ทุกเย็นตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. เป็นต้นไป แม่บ้าน พ่อบ้าน คนทำงาน เด็กนักเรียนหลังเลิกเรียน จะมารุมกันสั่งข้าวเหนียวห่อใบตองหน้าต่างๆ เช่น หน้าหมูทอด, เนื้อทอด, หมูโค้ว, หมูฝอย, ลาบหมู, หมูสามชั้นทอดกรอบ, หมูแผ่น แถมบางวันยังมีเมนูพิเศษ เช่น ลาบปลา และแกงคั่วขนุนอ่อน มาให้ได้ลิ้มรสความอร่อยอีกด้วย ราคาขายเพียงห่อละ 15 บาท พิเศษ 20 บาท จะซื้อเฉพาะกับข้าว 20 -30 บาท แม่ค้าก็แบ่งขาย จะแบ่งซื้อข้าวเหนียวอย่างเดียวก็ได้ โดยขายกิโลกรัมละ 50 บาท เพราะบอกว่าเข้าใจในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ บางครอบครัวซื้อข้าวเหนียวไปกินกับอาหารที่เตรียมไว้แล้ว บางคนก็ซื้อเป็นกับข้าวไปกินเสริมอาหารเย็นเช่นกัน



คุณลุงเสนาะ สำลีปั้น อายุ 57 ปี และคุณป้าทองหยิบ คงดวง อายุ 60 ปี ทั้งสองสามีภรรยาเป็นชาว ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย คือเจ้าของร้านข้าวเหนียวห่อใบตองดังกล่าว ร้านนี้จึงมีการเรียกติดปากกันว่า “ข้าวเหนียวบ้านสวน” คุณลุงบอกว่านึ่งข้าวเหนียววันละ 2 กระสอบ เท่ากับวันละ 100 กิโลกรัม และต้องเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงู เพราะอร่อยและนิ่ม



โดยทุกวันจะนำข้าวแช่น้ำประมาณ 4 - 5 ชม. และผสมเกลือเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มีกลิ่นข้าว ข้าวเหนียวจะนิ่ม เก็บได้นาน และไม่เหม็นบูด จากนั้นซาวขึ้นพักไว้ใส่กระสอบข้าวเพื่อเตรียมมาขายที่ตลาด และย้ำว่าไม่ได้แช่น้ำเก่าตามที่มีบางคนที่บอกว่าต้องเอาน้ำข้าวเก่ามาแช่ผสมนั้นอย่าไปทำตาม เพราะจะทำให้ข้าวเหนียวเหม็น และเวลารับประทานแล้วจะร้อนคอ โดยคุณลุงเสนาะมีหน้าที่นึ่งข้าวเหนียว นึ่งไปขายไป ระหว่างรอข้าวนึ่งสุก ก็จะไปช่วยคุณป้าทองหยิบห่อข้าวเหนียวขาย ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 4 ชั่วโมง ของทุกอย่างที่เตรียมมาจะหมดพอดี

ขายหมดตอนเย็นกลับบ้านก็จะช่วยกันเช็ดใบตอง หั่นหมู หั่นเนื้อ และหมักเตรียมไว้ทอดในตอนเช้า ซึ่งก็จะได้ของใหม่ๆ สดๆ ขายทุกวัน โดยใช้หมูวันละประมาณ 20 กิโลกรัม หมูสามชั้น 5 กิโลกรัม เนื้อวัวประมาณ 5 กิโลกรัม ขายได้วันละประมาณ 8,000 - 10,000 บาท เป็นอาชีพที่ทำมานานกว่า 15 ปี ขายมาตั้งแต่ราคาห่อละ 5 บาท จนปัจจุบันราคาก็ไม่ได้สูงขึ้นจนเกินไป และมั่นใจว่าราคามื้อละ 15 - 20 บาท ลูกค้าที่มาซื้อสามารถอิ่มท้องแน่นอน

ขอขอบคุณ
http://money.sanook.com/503729/

อดีตครูใช้เวลาว่าง ทำไม้กวาดทางมะพร้าวขาย สร้างรายได้เสริมเดือนละหมื่น

อดีตครูวัย 64 เก็บก้านมะพร้าวแห้งที่หลายคนมองไร้ค่า ทำไม้กวาดทางมะพร้าวขาย สร้างรายได้เสริมเดือนละกว่าหมื่นบาท ทั้งยังนำไปแจกฟรีให้ ร.ร. ที่เคยสอนด้วย



นายชาญชัย จำปาหอม อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เลือกงาน ไม่นิ่งเฉย ใช้เวลาว่างหลังเกษียณอายุราชการทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายเป็นอาชีพและรายได้เสริม โดยนำความรู้จากการเข้าร่วมอบรมการทำหัตถกรรมจักสาน สมาคมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลบ้านด่าน มาประยุกต์

ส่วนวัสดุก็หาได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะก้านมะพร้าวที่หลายคนมองว่าไร้ค่า ก็สามารถหาได้ในหมู่บ้านโดยไม่ต้องลงทุนซื้อ ส่วนไม้ไผ่ที่นำมาทำเป็นด้ามไม้กวาดก็หาได้จากท้องถิ่นเช่นกัน อุปกรณ์ที่ต้องซื้อก็มีแค่เพียงเชือกไนล่อน และตะปูที่ใช้ในการตอกยึดและถักเท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการทำไม้กวาดทางมะพร้าวก็ไม่ได้ยุ่งยาก


  1. เริ่มต้นจากการนำก้านมะพร้าวมาเหลาเอาใบออก แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง 
  2. จากนั้นนำก้านมะพร้าวมามัดเป็นกำ กำละ 10 อัน ให้ได้ 30-40 มัด 
  3. นำมาถักเรียงกัน จากนั้นนำมาประกอบใส่ด้ามไม้ไผ่ที่เหลาเตรียมไว้ 
  4. แล้วมัดด้วยลวดหรือหนังยางอีกรอบ ตอกตะปูยึดให้แน่น 
  5. ขั้นตอนสุดท้ายก็ใช้เชือกไนล่อนถักร้อยขึ้น-ลงให้แน่นหนามากขึ้นและดูสวยงามด้วย
โดยไม้กวาดที่ทำเสร็จแล้วก็จะใส่รถเข็นตระเวนขายในหมู่บ้าน และส่งขายตามตลาด จนปัจจุบันมีลูกค้าประจำมารับซื้อถึงบ้าน จนบางช่วงทำไม่ทัน แต่ลูกค้าก็จะสั่งจองไว้แล้วมารับทีหลัง ด้วยความขยันและไม่หยุดนิ่งของครูชาญชัยที่ใช้เวลาว่างหลังเกษียณทำไม้กวาดขาย ก็ทำให้มีรายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 8,000 – 10,000 บาท


นอกจากนี้ ครูชาญชัยยังได้นำไม้กวาดทางมะพร้าวที่ทำไว้ไปมอบฟรีให้กับโรงเรียนหลายแห่งที่ตัวเองเคยสอนด้วย ทั้งยังพร้อมจะสละเวลา แรงกาย แรงใจ นำความรู้ที่มีไปถ่ายทอดให้กับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจได้นำไปทำเป็นอาชีพอีกด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหา
ที่มา http://money.sanook.com/487937/

งานเสริมทำได้ !! มะนาวคั้นสด สร้างรายได้ 15,000 ต่อเดือน

"มะนาวคั้นสด" อาชีพเสริมที่น่าสนใจ สร้างรายได้ 15,000 ต่อเดือน


มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง คั้นน้ำมะนาวสดขายเป็นอาชีพเสริม โดยใช้มะนาวที่ปลูกเองเป็นมะนาวอินทรีย์ ไร้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แปรรูปผลิตผลส่งร้านขายเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ขายกิ่งตอนและขายมะนาวแบบลูก โดยขายผ่านทางเฟซบุ๊ค สร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวเฉลี่ย 15,000 บาทต่อเดือน

ดูคลิบวิดีโอ คลิ๊ก
ขอบคุณที่มาจาก ไทยพีบีเอส

แนะนำ ผัก 5 ชนิด ที่ปลูกง่ายเก็บขายได้ไวเป็นอาชีพเสริม

ถ้ากำลังรองานอยู่แนะนำเพื่อนๆชาวพิษณุโลกที่ว่างงาน ปลูกผักกันครับ ซึ่งการปลูกผักนั้นอกจากเป็นการใช้เวลาว่างช่วงที่รอให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังสามารถนำไปบริโภคในครัวเรือน อีกทั้งเหลือเยอะขายได้ด้วยนะครับ แนะนำเลยว่า ถ้าเราปลูกเป็นแล้วการันตีว่ารายได้มาแน่นอน ไปดูกันเลยครับผมว่ามีผักอะไรที่น่าสนใจบ้าง



1. ผักบุ้งจีน

สุดยอดผัก Never Die ที่ร้านค้าทุกที่ต้องมี ซึ่งผักบุ้งจีนนั้นเป็นผักที่ปลูกง่าย มีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวราว 20-25 วันหลังจากหว่านเมล็ด ก็เก็บได้แล้ว และเป็นผักยอดนิยมชนิดหนึ่งในช่วงกินเจ ซึ่งอาจขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 45-50 บาท จากราคาปกติ 20-25 บาท  เลยนะครับ




 2. กวางตุ้ง

ผักกวางตุ้งเป็นผักใบเขียวที่นำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ทั้งจับฉ่าย ผัดน้ำมันหอย หรือเป็นผักแกล้มอาหาร เป็นผักที่เรามกพบในร้านก๋วยเตี๋ยวหรือราดหน้า ถ้าเราปลูกในช่วงกินเจนี่แบบรวยไม่รู้เรื่องเลยนะครับ ซึ่งในช่วงกินเจราคาผักกวางตุ้งจึงสูงพอตัว โดยจากที่มีราคาประมาณกิโลกรัมละ 20-25 บาท ราคาขายกวางตุ้งช่วงเทศกาลกินเจอาจดีดไปถึงกิโลกรัมละ 40-50 บาท สูงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว



 3. เห็ดฟาง

เห็ดฟาง เห็ดที่ผัดน้ำมันหอย โคตรอร่อยเลยนะครับเป็นที่ต้องการมาก ๆของตลาดมากๆ ช่วงที่ไม่มีกิโลเกือบร้อยเลยล่ะ โดยราคาเห็ดฟางในช่วงเทศกาลกินเจอาจเพิ่มขึ้นสูงราว 20-30 บาท ขายได้ที่ราคา 75-85 บาทต่อกิโลกรัม จากปกติขายอยู่เพียงกิโลกรัมละ 55-60 บาทเท่านั้น

บ้านเราถ้าอยากเพาะเห็ดฟางแนะนำใในตะกร้า สามารถไปเรียนรู้การเพาะเห็ดได้ที่ ฟาร์มเส้นทางเห็ด ทางไปบางระกัดได้เลยครับ ที่นั้นมีสอนเพาะเห็ดจ้า




4. เห็ดนางฟ้า

เห็ด Never Die อีกชนิดที่มีกินเกือยทุกวันและขายดีมากๆ ยิ่งเทศกาลกินเจเมื่อปีที่แล้ว เห็ดนางฟ้าเป็นดาวเด่นอีกชนิดหนึ่งที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาก จนฟาร์มเห็ดแต่ละแห่งเร่งผลิตเห็ดนางฟ้ากันแทบไม่ทัน ทั้งนี้ราคาเห็ดนางฟ้าในช่วงนั้นก็พุ่งสูงแตะกิโลกรัมละ 100 บาท ขายได้ราคามากกว่าช่วงอื่น ๆ ประมาณ​ 20-40 บาทเลยทีเดียว  การเพาะเห็ดนางฟ้าเดียวนี้ง่ายนะครับ ไปซื้อก้อนมาแล้วก็เอามาเพาะได้เลย โดยการเปิดก้อนแล้ว ทิ้งก้อนไว้ในที่ชื้นๆ รับรองว่าดอกเห็ดออกแน่นอน






5. ถั่วงอก

อภินิหาร ถั่วขายไวที่วันไวมากๆ 3 วันก็เก็บกินเก็บขายได้แล้ว ถั่วงอกเป็นพืชที่ขายดีในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งแม้ราคาถั่วงอกจะไม่สูงมากนัก แต่การเพาะถั่วงอกขายในช่วงนี้ก็ได้กำไรไม่น้อยเลยเหมือนกัน ด้วยความที่ถั่วงอกนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นผักที่ราคาไม่แพง คนจึงนิยมนำถั่วงอกไปประกอบอาหารเจนั่นเอง

แนะนำว่าปลูกผักทั้ง 5 ชนิดนี้เป็นแล้ว เพื่อนๆจะมีรายได้เสริมเพิ่มแน่ๆครับ แต่การเป็นเกษตรนั้นต้องหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลานะครับจึงจะประสบผล นอกจากผักทั้ง 5 นี้แล้วยังมีผักทำเงินอีกเพียบ หมั่นเช็คราคาและสถิติจากเวป 4 มุมเมืองจะช่วยให้เพือนๆตัดสินใจปลูกผักได้ถูกชนิดครับ

ถ้ายังไงบทความนี้ขอให้เพื่อนๆชาวพิษณุโลกโชคดีกับการหารายได้เสริมกันครับ 

เรียบเรียงและเพิ่มเนื้อหา งานพิดโลกล่าสุด
บทความต้นฉบับจาก กระปุกดอทคอม

มาลองทำน้ำพริกอ่อง สูตรดั้งเดิมของเมืองเชียงใหม่กันดีกว่า

ช่วงนี้ชอบท่องอินเตอร์เน็ตแล้วดูพวกบทความทำอาหาร แล้วไปเห็นบทความทำน้ำพริกน่ากินมากอันนี้เขาบอกเป็นสูตรเชียงใหม่ เห็นว่าน่าสนใจเพื่อนๆชาวพิษณุโลก ถ้ามีคนทำเห็นว่าน่าสนใจไปลองทำกินกันดูใครทำอร่อยลองมองเป็นการเสริมสร้างรายได้กันเลยนะครับ


อาชีพอิสระ มาลองทำน้ำพริกอ่อง

ส่วนผสมของน้ำพริกอ่อง1. เนื้อหมูบด           400 กรัม
2. มะเขือเทศลูกเล็ก      20        ลูก
3. ผักชีซอย       1 ช้อนโต๊ะ
4. ต้นหอมซอย               1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช               2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกงน้ำพริกอ่อง1. พริกขี้หนูแห้ง     20 เม็ด
2. หอมแดง               5 หัว
3. กระเทียม             10 กลีบ
4. กะปิ               1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ            1/2 ช้อนชา 

ขั้นตอนการทำน้ำพริกอ่อง1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม รวมกันให้ละเอียด
2. ใส่กะปิและเกลือ โขลกให้เข้ากัน
3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูบด ลงผัดให้สุก เติมน้ำเล็กน้อย
4. พอเดือด ใส่มะเขือเทศ ลงผัดให้เข้ากัน ตั้งไฟต่อจนมะเขือเทศสุก ปิดไฟ
5. เพิ่มความอร่อยของน้ำพริกอ่อง ด้วยการทานกับแคปหมู อร่อยยิ่งนัก 


ที่มาจาก อาชีพอิสระ

วิธีการปลูกพริกขี้หนู ให้ได้ผลดี ปลูกขายทำเป็นอาชีพได้

พริกขี้หนู และพริกชนิดต่างๆ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนไทยจำนวนมหาศาล เพราะว่าพริกเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงอาหารต่างๆ ส่วนประกอบสำคัญในเครื่องเทศ เครื่องปรุงรส สรรพคุณทางยา ตลอดจนนำพริกไปใช้ประโยชน์ในทางอื่นๆด้วย ประเทศไทยสามารถปลูกพริกได้ทั่วประเทศ ได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในเรื่องความหลากหลายของสายพันธุ์พริก อีกทั้งคนไทยยังนิยมทานพริก นอกจากนี้พริกยังเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ



โอกาสสร้างรายได้กับการปลูกพริกขาย

พริกขี้หนู และพริกชนิดต่างๆ สามารถปลูกได้ดีในประเทศ มีระยะเวลาให้ผลผลิตนานพอสมควร สำหรับคนที่่ต้องการปลูกไว้บริโภคเองในบ้าน อาจจะปลูกพริกในกระถางหรือปลูกจำนวนไม่กี่ต้นก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกพริกขาย บางกอกทูเดย์ เราก็ได้รวบรวมข้อมูลการปลูกพริกขี้หนู มาให้ได้ทดลองปลูก หรือใช้เป็นแนวทางได้ แบบสรุปไม่ยาวจนเกินไป เพราะเรื่องการเกษตรจะให้รู้จริง ต้องทำจริง อีกทั้งในอนาคตพื้นที่การเกษตรก็แนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่การจะทำเกษตรให้มีกำไรนั้นจะต้องมีการเตรียมตัววางแผนอย่างดี รวมถึงการศึกษาหาข้อมูลต่างอยู่ตลอดเวลาด้วย

พริกขี้หนู ชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ดีปลี ดีปลีขี้นก พริกขี้นก ปะแกว พริก พริกแด้ พริกแต้ พริกนก หมักเพ็ด หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum flutescens Linn. เป็นไม้พุ่มเตี้ย ต้นมีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ใบแบนเรียบเป็นมัน ปลายใบแหลม มีดอกสีขาว ผลมีลักษณะกลมยาวปลายแหลมชี้ฟ้า ซึ่งจะต่างจากพริกชี้ฟ้าตรงที่ผลจะชี้ลงพื้นดิน ส่วนขนาดผลยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่จะมีสีเหลือง สีส้ม สีแดง หรือแดงแก่ และในแต่ละผลจะมีเมล็ดเรียงรายอยู่จำนวนมาก

วิธีการปลูกพริกขี้หนู

พันธุ์พริกขี้หนู หาซื้อได้ไม่ยาก หากต้องการปลูกเชิงการค้าแล้ว ต้องเลือกพันธุ์ที่มีความต้องการสูง อีกทั้งยังเหมาะสมสำหรับพื้นที่เพาะปลูกนั้นๆด้วย ในขั้นตอนเลือกพันธุ์พริกขี้หนูนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกพันธุ์ที่ดี มีความต้องการสูง เหมาะสมกับื้นที่เพาะปลูก จะช่วยทำให้ลดต้นทุน และได้ผลผลิตสูงด้วย…เพราะว่า พันธุ์ คือหัวใจสำคัญของการทำเกษตรก็ว่าได้

ขั้นตอนการเตรียมดิน

เริ่มจากการเตรียมแปลงเพาะ ขุดหน้าดิน 15-20 เซนติเมตร (1หน้าจอบ) เตรียมทำเป็นแปลงกว้าง 1 เมตร ผสมปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักคลุกเคล้าให้เข้ากับดินจากนั้นพรวนดินหรือตีดินให้ละเอียดและปรับหน้าดินให้เรียบเสมอกัน ก่อนหว่านเมล็ดให้ทั่วแปลงหรือหากเลือกปลูกในกระบะเพาะ อาจใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยคอก (อัตราส่วน 1:1) จากนั้นใช้แกลบหรือฟางข้าวกลบทับบางๆ ก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 25-30 วันจึงย้ายปลูกการเตรียมแปลงปลูกและย้ายกล้า ใช้จอบขุดหน้าดินลึก 15-20 เซนติเมตร ทำแปลงขนาดกว้าง 1 เมตร x ความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่ จากนั้นนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านให้ทั่วและคลุกเคล้ากับดิน ก่อนขุดหลุมปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 30 เซนติเมตร ระหว่างแถว 70 -80 เซนติเมตร

วิธีปลูกพริกขี้หนู รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 หลุมละ ½ ช้อนชา ทับหน้าปุ๋ยเคมีด้วยปุ๋ยคอกหลุมละ 1 กะลามะพร้าว จากนั้นถอนแยกต้นกล้าอย่างระมัดระวัง โดยการย้ายต้นกล้าลงปลูกควรทำโดยทันทีและเป็นช่วงเย็น จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุมปลูก หลุม ละ 1 ต้น จากนั้น รดน้ำตามให้ชุ่ม

วิธีการดูแลรักษา พริกขี้หนู เมื่อปลูกแล้ว

การให้น้ำพริกขี้หนู ควรให้น้ำอย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ แต่อย่ารดให้แฉะเกินไปการให้น้ำควรให้ทุกวันหลังจากปลูกจนต้นกล้าตั้งตัวได้ประมาณ 5-6 สัปดาห์ จากนั้นค่อยลดปริมาณน้ำลง ซึ่งอาจจะรด 1 วัน หยุด 2 วัน ก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูสภาพความชื้นของดินด้วย อย่าให้แฉะหรือ แห้งเกิน เพราะจะทำให้พริกชะงักการเจริญเติบโต

การใส่ปุ๋ย ให้บำรุงพริกด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 อัตรา 1 ช้อนชา/ต้น ทุกๆ 15-20 วัน โดยโรยห่างโคนต้น 5 เซนติเมตร และรดน้ำตามทันที หรือ จะเลือกใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยหมักชีวภาพประมาณ 1-2 กำมือ/ต้น โรยรอบโคนต้นทุกๆ 20 วันก็ได้

การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ฉีดพ่นน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพทุก 10-15 วันครั้ง จะช่วยบำรุงและป้องกันโรคพืช หรือศัตรูพืชได้อีกทาง

วิธีการเก็บเกี่ยว พริกเป็นพืชที่มีอายุยืนและปลูกได้ผลดีตลอดปี มีอายุเก็บเกี่ยวได้หลัง ย้ายกล้าลงปลูก 60-90 วัน การเก็บเกี่ยวควรเก็บทุกๆ 5-7 วันโดยใช้วิธีเด็ดทีละผล อย่าเก็บทั้งช่อ เพราะผลแต่ละช่อแก่ไม่พร้อมกัน โดยพริกขี้หนูสามารถเก็บได้ยาวนานถึง 6 เดือน

ผลของพริกขี้หนู สรรพคุณและประโยชน์ ใช้ประกอบอาหารได้รสชาติเผ็ดร้อน ส่วนยอดอ่อนนำมาลวกเป็นผักแกล้มน้ำพริกได้ หรือนำไปปรุงอาหารประเภทแกงจืด แกงเลียง มีสรรพคุณทางยาช่วยขับลม ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไข้ แก้ตานซางในเด็ก มีสาร capsaicin ใช้เป็นส่วนผสมในยาขับลมและขี้ผึ้งทาถูนวด ประโยชน์ของพริกขี้หนูมากขนาดนี้จึงทำให้ตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่อง ใครสนใจอยากจะปลูกพริกขี้หนูขายเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักก็ลองลงมือทำ ลองปลูกลองขายกันได้เลย

ขอบคุณ รูปภาพจาก pharmacy.mahidol.ac.th